วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

โครงการบ้านกัลยาณมิตร... หยั่งรากสันติสุขสู่ใจคน

โครงการบ้านกัลยาณมิตร
พ.ศ.2547-ปัจจุบัน

เปิดบ้านตัวเองให้คนมานั่งสวดมนต์ฝึกสมาธิร่วมกัน โดยนิมนต์พระอาจารย์มาเป็นผู้นำ..หลักการง่ายๆ มีเพียงเท่านี้ แต่ผลที่ได้ยิ่งใหญ่มหาศาล บวกกับวิธีการที่ต้องใช้สติปัญญาไม่น้อยทีเดียว

บ้านเราหลังเล็กๆ สมาชิก 4 คน รู้คุณค่าในบุญและรู้ตัวดีว่าในภพชาติอดีตคงชวนคนทำบุญมาน้อย ชาตินี้จึงญาติน้อยเหลือเกิน..ทุ่มเทเปิดบ้านกัลยาณมิตรในทุกๆ วันเสาร์ เวลา 14.00-16.00 น. ให้ชาวบ้านละแวกบางบัวทองได้มานั่งปฏิบัติธรรม ฟังธรรมร่วมกัน นับเป็นช่วงเวลาที่มีคุณค่าที่สุดช่วงหนึ่งเลยทีเดียว

ใครๆ ในโลกนี้ก็มีทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น คนรวยก็ทุกข์แบบคนรวย คนจนก็ทุกข์แบบคนจน เราได้รู้จักเพื่อนร่วมทุกข์อีกเยอะเลย ในขณะเดียวกันก็ได้ขัดเกลาตัวเองไปด้วย..ก็แหม จะไปเป็นผู้นำบุญเค้า  ถ้าบุญน้อยกว่าก็ไม่เรียกผู้นำบุญสิ ..จริงไหม ..เขียนถึงบรรทัดนี้ ก็ให้นึกถึงป้ากีผู้มีฐานะเพราะขายวัสดุก่อสร้าง แต่ลูกหลานไม่รักไม่เอาใจใส่..ทุกข์ไปจนถึงกระดูกเลย... และคุณป้าอีกท่านนึง มากับหลานสาวตัวน้อยผู้ซึ่งพ่อแม่ของเด็กทิ้งไป คุณป้ามีอาชีพเป็นกระเป๋ารถเมล์ อันนี้เรียกว่าทุกข์เพราะขาดทรัพย์...ผู้คนล้วนต้องการธรรมะยึดเหนี่ยวจิตใจ ต้องการคำสอนให้ตนได้คลายจากทุกข์ได้บ้าง และยิ่งมีผู้มาชี้นำทางให้ออกจากกองทุกข์ได้ คงเป็นสิ่งประเสริฐสุด... เราภาคภูมิใจในการทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับผู้คนมาก มันไม่ง่ายเลยเพราะต้องใช้กำลังใจที่มากกว่า

คนที่ไม่คุ้นกับการสร้างความดีในระดับมหภาค ไม่มีทางเข้าใจว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยและวัดพระธรรมกายทำอะไร คนที่นึกออกและมองปัญหาพระพุทธศาสนาในปัจจุบันออก จึงเข้าใจว่า สิ่งที่วัดพระธรรมกายทำนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่เรื่องที่ตนเองได้ประโยชน์ แต่เพื่อยังประโยชน์ให้สังคมโดยแท้...ไม่เชื่อ ท่านก็ลองเปิดบ้านตนเองเป็นบ้านกัลยาณมิตรดู...ต้องการ consult บอกได้นะจ๊ะ...เราทำมาทุกหน้าที่แล้ว ตั้งแต่ระดับออก QR code ใช้ ไอทีในการลงทะเบียนผู้มาปฏิบัติธรรม โทรศัพท์พูดคุยติดตามชักชวนจนเป็นเหมือน
ลูกหลานที่คุ้นเคย จัดขนมเลี้ยงผู้มาปฏิบัติธรรม ไปจนถึงวิ่งซื้อน้ำแข็ง..สนุกและได้บุญเนื้อๆ ติดตัวไปจริงๆ

โครงการบ้านกัลยาณมิตรเป็นเพียงหนึ่งในโครงการของผู้ที่มีมโนปณิธานอันยิ่งใหญ่ ที่ตั้งไว้ระดับหยั่งรากแห่งสันติสุขไปสู่ใจมวลมนุษยชาติทุกคนทั่วโลก ผู้ที่มีมโนปณิธานที่ยิ่งใหญ่ต้องเป็นผู้ที่มีใจใหญ่ มองเห็นอุปสรรคเป็นเพียงสิ่งธรรมดาๆ ที่ผ่านเข้ามาให้แก้แล้วก็ผ่านเลยไป...ไม่มีเวลามาเพ่งโทษจับผิดหรือเหน็บแนมผู้ใด แล้วก็เป็นธรรมดาอยู่เองของการทำงานใหญ่ที่จะมีคนไม่เห็นด้วยหรือขัดเคืองใจ.... ความจริงเท่านั้น ความจริง ของจริง ดีจริง พิสูจน์ได้จริงเท่านั้นที่ทำให้ธรรมกายยืนหยัดมาได้เกือบครึ่งศตวรรต

ทองแท้ไม่เกรงกลัวต่อไฟที่มีผู้มาจุดเผา ทองแท้ไม่กลัวไฟ มีแต่จะยิ่งสุกปลั่งแม้ในยามที่ผู้มือถือไฟโดนไฟที่ตนเองถือเผาไหม้ไปแล้วก็ตาม!!!

ดร.พรชณิตว์ แก้วเนตร
รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศและลูกค้าสัมพันธ์
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น